Posted on Leave a comment

เพชรตัดกระจกได้ไหม? คำตอบจากหนังสู่วิทยาศาสตร์จริง

เรื่องราวที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยจากหนังหรือสื่อบันเทิงคือการที่เพชรสามารถตัดกระจกได้อย่างง่ายดาย แต่คำถามคือสิ่งนี้เป็นความจริงหรือไม่? เรามาสำรวจและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความความเข้าใจผิดนี้กัน

เพชรและความแข็งแรง

เพชรเป็นที่รู้จักว่าเป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุดในธรรมชาติ ด้วยความแข็งแรงระดับ 10 ตามมาตรา Mohs แต่ความแข็งแรงนี้มีความหมายอย่างไรเมื่อต้องตอบคำถามว่าเพชรตัดกระจกได้ไหม?

เพชรสามารถตัดกระจกได้หรือไม่?

ตามทฤษฎี เพชรสามารถทำลายกระจกได้เนื่องจากความแข็งแรงของมันที่สูงกว่ากระจก แต่ในเชิงปฏิบัติ การใช้งานในชีวิตจริงจำเป็นต้องระมัดระวังในการใช้เพชรให้ไม่เกิดความเสียหายต่อเพชรเอง

ความเสี่ยงในการทดลองด้วยแหวนเพชร

หากคุณพยายามใช้งานแหวนเพชรเพื่อทดลองตัดกระจก คุณอาจพบปัญหาที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วนที่แหวนเพชรหรือความเสียหายต่อการตั้งค่าเพชรในแหวน

เพชรในวงการจิวเวลรี่: ความงดงามที่ควรได้รับการดูแล

เพชรมีความสวยงามและคุณค่าในวงการจิวเวลรี่ ซึ่งต้องดูแลรักษาอย่างระมัดระวัง เพื่อคงความงดงามและคุณค่าไว้ในระยะยาว

ทำไมการทดสอบด้วยเพชรอาจไม่คุ้มค่า

การทดสอบการตัดกระจกด้วยเพชรอาจไม่เป็นประโยชน์และไม่คุ้มค่าในชีวิตจริง การใช้เพชรควรเน้นที่ความงดงามและการผสมผสานเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับเครื่องประดับ

สำรวจความจริงแท้และดุลยพินิจก่อนทำการทดลอง

หากคุณสนใจในความรู้เกี่ยวกับเพชร ควรสำรวจข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้และใช้ดุลยพินิจก่อนทำการทดลองใดๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย

ในสรุป การที่เพชรสามารถตัดกระจกได้ในทางทฤษฎี แต่ไม่เหมาะสมในการนำมาใช้ในชีวิตจริงเพราะอาจจะทำให้เครื่องประดับเสี่ยงต่อความเสียหาย การดูแลรักษาเพชรให้อยู่ในสภาพดีถือเป็นความสำคัญ

Posted on Leave a comment

เพชรที่เรืองแสงใต้แสง UV: ของปลอมจริงหรือ?

หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องของเพชรที่เรืองแสงใต้แสง UV แล้วสงสัยว่าเพชรชนิดนี้เป็นของปลอมหรือไม่ ความเชื่อหลากหลายในวงการจิวเวลรี่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ บทความนี้จะพาคุณไปเคลียร์ทุกความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Fluorescence ในเพชร พร้อมเผยเรื่องจริงสุดว้าว!

Fluorescence ในเพชรคืออะไร?

Fluorescence คือการที่เพชรเรืองแสงเมื่อได้รับแสง UV ซึ่งเพชรที่มีคุณสมบัตินี้สามารถพบได้ถึง 25-35% ของเพชรธรรมชาติ กล่าวคือเป็นเรื่องปกติของเพชรธรรมชาติและไม่ใช่การชี้ถึงของปลอม

เพชรเรืองแสง UV: หลักความเชื่อกับความจริง

หลายคนเชื่อว่าเพชรที่เรืองแสงใต้แสง UV อาจเป็นเพชรคุณภาพต่ำ แต่ความจริงคือ Fluorescence ไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพเพชรแต่อย่างใด การเรืองแสงนี้ไม่ส่งผลต่อความงดงามของเพชรในสภาพแสงปกติ

Fluorescence กับมูลค่าเพชร

บางครั้ง Fluorescence อาจมีผลบวกต่อเพชรที่มีสีเล็กน้อย (เช่น สี J หรือ K) ทำให้เพชรดูขาวใสมากขึ้น และนี่อาจเพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าในตลาดนักสะสมได้

วิธีประเมิน Fluorescence ในเพชร

เพชรที่มีการเรืองแสงจะแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ตั้งแต่ None, Faint, Medium, Strong จนถึง Very Strong ผู้ซื้อต้องพิจารณาว่าระดับใดที่เหมาะสมและเป็นไปตามสไตล์ของตน

เพชรเรืองแสง UV กับการส่งผลต่อคู่หมั้น

หากคุณกำลังเลือกซื้อเพชรสำหรับการหมั้น หมายถึงควรทำความเข้าใจและพิจารณา Fluorescence ด้วย เพราะการเรืองแสงนี้อาจเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างเชิงอารมณ์ได้

ข้อควรระวังในการซื้อเพชร

  • ตรวจสอบใบรับรอง GIA ที่มีข้อมูล Fluorescence โดยละเอียด
  • ใช้คำปรึกษาและมองหาเพชรจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ

ในการเลือกเพชร การรู้จักและเข้าใจทุกปัจจัยจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณกำลังลงทุนในสิ่งที่คุ้มค่าและมีความงดงามนิรันดร์

Posted on Leave a comment

แม่เหล็กดูทองแท้ได้ไหม? ทลายความเชื่อพร้อมวิธีเช็คสุดปลอดภัย

แม่เหล็กดูทองแท้ได้ไหม: ความเชื่อที่ต้องพิจารณาใหม่

หลายคนเชื่อว่าแม่เหล็กสามารถช่วยตรวจสอบว่าทองแท้หรือไม่ เนื่องจากทองคำบริสุทธิ์นั้นไม่มีสมบัติทางแม่เหล็ก หากใช้แม่เหล็กแล้วติดถือว่าไม่ใช่ทองแท้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจมีข้อยกเว้นเล็กน้อยที่เราต้องระวัง เช่น มีส่วนผสมของโลหะที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กในทองที่ขายกันในท้องตลาด

เหตุผลทางวิทยาศาสตร์: ทองและแม่เหล็ก

ความจริงก็คือ ทองคำบริสุทธิ์ หรือทอง 24 กะรัต ไม่มีอิทธิพลของแม่เหล็ก แต่เมื่อมีการนำทองไปผสมกับโลหะชนิดอื่น ๆ เช่น นิกเกิล เหล็ก ซึ่งเป็นแม่เหล็ก ทองนั้นอาจตอบสนองต่อแม่เหล็กได้

วิธีเช็คทองแท้แบบปลอดภัยโดยไม่พึ่งแม่เหล็ก

  • ใช้กรดไนตริก: ทดสอบด้วยทางเคมีที่ทำให้ทองละลาย
  • ทดสอบด้วยเครื่องทดสอบทองที่ได้รับการรับรอง
  • ใช้แว่นขยายตรวจสอบตราสัญลักษณ์
  • ตรวจสอบกับร้านหรือผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ

ข้อควรระวัง: ทำไมถึงไม่ควรใช้แม่เหล็กแบบเดี่ยว ๆ

การใช้แม่เหล็กเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณภาพของทอง เครื่องประดับทองหลายชนิดอาจมีส่วนผสมของโลหะที่มีสมบัติทางแม่เหล็กเพื่อเพิ่มความทนทาน ดังนั้น การทดสอบที่ถูกต้องควรใช้หลายวิธีเพื่อความแม่นยำ

เครื่องประดับทองและการดูแล

การดูแลรักษาเครื่องประดับทองอย่างเหมาะสมยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ดังนั้น ทองที่เรารักควรได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีอยู่เสมอ

สรุป

แม่เหล็กไม่ใช่เครื่องมือที่เชื่อถือได้ในการตรวจสอบทองแท้เสมอไป การใช้วิธีทดสอบหลายประเภท เช่น ใช้กรด หรือการตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าและไม่ทำลายเครื่องประดับของคุณ

Posted on Leave a comment

ล้างเพชรด้วยยาสีฟัน ได้จริงไหม? ความเข้าใจผิดสุดฮิต

ยาสีฟัน ล้างเพชรได้จริงหรือ?

หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการล้างเพชรด้วยยาสีฟันเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด แต่ความจริงคือการใช้ยาสีฟันอาจทำลายพื้นผิวของเพชรหรือทองในระยะยาว ส่วนประกอบในยาสีฟันอาจกัดเครื่องประดับ ทำให้ไม่สว่างใสเหมือนเดิม

อันตรายจากยาสีฟันต่อเครื่องประดับ

  • ยาสีฟันอาจมีส่วนประกอบที่ขัดพื้นผิว ทำให้เกิดรอยขีดข่วน
  • บางสูตรมีสารเคมีที่สามารถทำลายสีของทองหรือโลหะอื่นๆ
  • ใช้เวลานานในการกำจัดคราบยาสีฟันที่ติดในร่องเครื่องประดับ

วิธีที่ถูกต้องในการล้างเพชร

ควรใช้สบู่อ่อน ๆ กับน้ำอุ่นและผ้านุ่มสำหรับการล้างเพชร เพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เพชรของคุณสว่างใสอีกครั้ง

การดูแลเครื่องประดับอย่างมืออาชีพ

การนำเครื่องประดับไปทำความสะอาดกับผู้เชี่ยวชาญเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องประดับจะไม่ถูกทำลาย

แนะนำผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลเพชร

หากต้องการวิธีทำความสะอาดที่บ้านจริง ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลเพชรและเครื่องประดับ

ทำไมควรทำความสะอาดเครื่องประดับอย่างสม่ำเสมอ?

การทำความสะอาดเครื่องประดับอย่างสม่ำเสมอช่วยรักษาความสวยงามและความเงางามของเพชร นอกจากนี้ยังช่วยตรวจสอบสภาพของเครื่องประดับว่ามีความเสียหายใดๆ หรือไม่

สรุป

แม้การใช้ยาสีฟันล้างเพชรดูจะเป็นวิธีที่ง่าย แต่ความเข้าใจผิดนี้อาจทำลายเครื่องประดับราคาแพงของคุณ ทางที่ดีคือการเลือกวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการดูแลเพชร ซึ่งจะช่วยรักษาความสวยงามและมูลค่าของมันในระยะยาว

Posted on Leave a comment

ทองคำกินได้ไหม? เผยความจริงเกี่ยวกับทองคำเปลวอาหารและทองจิวเวลรี่

หลายคนอาจเคยได้ยินว่าทองคำสามารถนำมารับประทานได้ แต่ก็ยังมีความสับสนเกี่ยวกับประเภทของทองคำที่ควรกิน วันนี้เราจะมาตอบคำถามที่หลายคนสงสัย: ทองคำกินได้ไหม? เราจะแกะความเข้าใจผิดระหว่างทองคำเปลวอาหาร (E175) กับทองจิวเวลรี่ และความปลอดภัยของมัน

ความแตกต่างระหว่างทองคำเปลวอาหารกับทองจิวเวลรี่

ทองคำเปลวอาหาร (E175): ทองคำเปลวชนิดนี้ถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ในอาหาร โดยได้รับการรับรองจากหลายหน่วยงานว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภค มักใช้ในการตกแต่งขนมหรือเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความหรูหรา

ทองจิวเวลรี่: ทองคำที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จิวเวลรี่นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการบริโภค เนื่องจากมีการผสมสารเจือปนอื่นๆ ที่อาจไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

การใช้งานของทองคำในอาหาร

ทองคำเปลวอาหาร (E175) สามารถนำมาใช้ตกแต่งอาหารได้หลากหลาย เช่น การโรยบนเค้ก ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มพิเศษ เพื่อเพิ่มความสวยงามและมูลค่า แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม

ข้อควรระวังในการบริโภคทองคำ

ถึงแม้ว่าทองคำเปลวอาหารจะปลอดภัยต่อการบริโภค แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และอาจสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับทองคำในวงการอาหารและจิวเวลรี่

มีความเข้าใจผิดว่าทองคำทุกประเภทสามารถบริโภคได้ แต่ในความเป็นจริง ควรแยกแยะให้ชัดเจนระหว่างทองคำที่ผลิตมาโดยเฉพาะสำหรับอาหารกับที่ใช้ในจิวเวลรี่

บทสรุปและคำแนะนำ

ทองคำกินได้ไหม? คำตอบคือ ทองคำเปลวอาหาร (E175) นั้นปลอดภัยสำหรับการบริโภค มันสามารถเพิ่มความพิเศษให้กับอาหารของคุณได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้เฉพาะทองคำที่ออกแบบมาสำหรับการบริโภคเท่านั้น และไม่ควรนำทองจิวเวลรี่มารับประทานเด็ดขาด

Posted on Leave a comment

ขาวเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน: ทองคำขาวไม่ใช่แพลตตินัม

ทองคำขาว vs แพลตตินัม: ความเข้าใจเบื้องต้น

ทองคำขาว (White Gold) และแพลตตินัม (Platinum) แม้ว่าจะดูคล้ายกันอย่างมากเนื่องจากสีเงินขาวที่สะท้อนแสง แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในเรื่องขององค์ประกอบและคุณสมบัติพื้นฐาน

ทองคำขาว: ที่มาและกระบวนการผลิต

ทองคำขาวไม่ใช่ขาวโดยกำเนิด แต่เกิดจากการผสมระหว่างทองคำเหลืองแท้กับโลหะชนิดอื่นๆ เช่น นิกเกิลหรือแพลลาเดียม แล้วเคลือบด้วยสารโรเดียม ซึ่งให้สีขาวเงางาม แต่เมื่อใช้งานนานไปก็จะสูญเสียความเงางาม ต้องเคลือบใหม่

แพลตตินัม: โลหะมีค่ายากที่จะทดแทน

แพลตตินัมเป็นโลหะที่มีค่าธรรมชาติสูงและมีลักษณะขาวเงินบริสุทธิ์ทั้งยังมีความทนทานและหนักกว่าทองคำขาว อีกทั้งไม่ต้องเคลือบโรเดียมเพิ่มเติมเพื่อเงางาม สินค้าที่ผลิตจากแพลตตินัมเหมาะสำหรับการใช้งานระยะยาว

การเลือกทองคำขาวหรือแพลตตินัมให้เหมาะกับคุณ

  • งบประมาณ: ทองคำขาวจะมีราคาย่อมเยากว่าแพลตตินัมเพราะกระบวนการผลิตที่ง่ายกว่า
  • ความทนทาน: หากคุณต้องการเครื่องประดับที่ใส่ได้ทั้งวัน แพลตตินัมจะมีความทนทานมากกว่า
  • การดูแลรักษา: หากคุณไม่ต้องการที่จะเคลือบโรเดียมใหม่บ่อยๆ แพลตตินัมอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า

ความนิยมในตลาดสำหรับว่าที่บ่าวสาว

การเลือกซื้อแหวนแต่งงานหรือวงหมั้นจากทองคำขาวหรือแพลตตินัมสามารถสะท้อนถึงความพิถีพิถันของคุณ แพลตตินัมเป็นที่นิยมเพราะความทนทาน และมีคุณค่าเพื่อแสดงถึงความรักที่ยั่งยืน

ข้อสรุป

เครื่องประดับทองคำขาวและแพลตตินัมมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างที่ชัดเจน นักเลือกเครื่องประดับสามารถพิจารณาจากความต้องการใช้งาน คุณสมบัติพิเศษ และงบประมาณ เพื่อให้ได้สินค้าที่เหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบชีวิตของตนเอง

Posted on Leave a comment

ราคาทองคำโลกและทองในไทย: ปัจจัยที่ทำให้ขึ้นหรือลง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

  • ความต้องการในตลาด: เหมือนกับสินค้าชนิดอื่น ๆ ราคาทองคำจะปรับขึ้นหรือลงตามความต้องการในตลาด ทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น

  • อัตราแลกเปลี่ยน: ราคาทองคำมักจะสัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะทองคำซื้อขายกันด้วยดอลลาร์ หากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าหรืออ่อนค่าจะส่งผลโดยตรงต่อราคาทอง

  • การลงทุนของธนาคารกลาง: ธนาคารกลางใหญ่ ๆ ในหลายประเทศถือทองคำในรูปของทุนสำรองการเงิน หากมีการซื้อหรือขายทองคำจำนวนมากก็จะส่งผลต่อราคาทองคำในตลาด

  • สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจ: ความไม่แน่นอนในสถานการณ์การเมือง เช่น การเก็บภาษีเพิ่มเติม สงครามการค้า หรือปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก สามารถช่วยให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

  • อัตราเงินเฟ้อ: ทองคำถือเป็นที่ลี้ภัยปลอดภัยในการลงทุนในช่วงที่เงินเฟ้อสูง ซึ่งคนมักจะย้ายการลงทุนมาใส่ในทองคำ

แนวโน้มราคาทองคำในประเทศไทย

  • ตลาดทองคำในไทยได้รับอิทธิพลจากตลาดโลก แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยเฉพาะในประเทศด้วย เช่น อัตราผลตอบแทนของเงินฝาก อัตราดอกเบี้ย และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเศรษฐกิจไทย

  • ความต้องการซื้อขายจากนักลงทุนในประเทศ การแลกเปลี่ยนเงินตรา และค่าภาษีต่างประเทศก็ยังถือเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อดูการเปลี่ยนแปลงของราคาทองในไทย

การเทรดทองในยุคดิจิทัล

  • ปัจจุบันการซื้อขายทองไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อทองแท่งหรือเครื่องประดับเพียงเท่านั้น นักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำผ่านตลาดออนไลน์ ซึ่งสะดวกรวดเร็วและมีความโปร่งใสมากขึ้น

  • การใช้แพลตฟอร์มซื้อขายทองออนไลน์ช่วยให้ราคาถูกต้องตามตลาดโลกและผู้ลงทุนสามารถทำการเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การเก็บสะสมทองคำในฐานะการลงทุน

  • ทองคำถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงและยังสามารถเป็นหลักประกันในช่วงเวลาเศรษฐกิจไม่แน่นอน

  • การเก็บสะสมทองคำทั้งในรูปของเครื่องประดับหรือทองแท่งช่วยให้นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนในระยะยาว

สรุป

ราคาทองคำมีการขึ้นลงตามปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของตลาด การแปรผันของเงินดอลลาร์ ความขัดแย้งทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ รวมถึงการลงทุนของธนาคารกลาง ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อทั้งราคาทองคำโลกและในประเทศไทย การลงทุนในทองคำยังถือเป็นการลงทุนที่มั่นคงและมีความเสี่ยงต่ำในระยะยาว

Posted on Leave a comment

เพชรเผาไหม้ได้ไหม? เปิดความเชื่อผิดที่หลายคนยึดติด

เพชรเผาไหม้ได้ไหม? คำตอบที่น่าทึ่ง

เพชรเผาไหม้ได้! แม้ว่าเพชรจะเป็นแร่ที่มีความแข็งที่สุดในธรรมชาติ ซึ่งมีค่าโมห์สความแข็งเท่ากับ 10 แต่ก็ไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ตลอดไป นั่นคือ หากเพชรถูกเผาในอุณหภูมิสักประมาณ 700-900 องศาเซลเซียสโดยที่ไม่มีออกซิเจนพอ ก็สามารถทำให้เพชรมลายได้

ไขความเชื่อผิด: เพชรแข็งที่สุด แตกไม่ได้

เพชรมีความแข็งแต่ก็ไม่ใช่ไม่แตก หากถูกกระแทกหรือถ้ามีความไม่สมบูรณ์ภายใน จะสามารถแตกหรือบิ่นได้ในบางจุด โดยเฉพาะเมื่อมีการตัดหรือเจียระไนผิดวิธี

วิทย์ง่ายๆ ที่ช่วยอธิบาย

  • เพชรเป็นคาร์บอนบริสุทธิ์ที่จัดเรียงอะตอมแน่นหนา แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเมื่อเจอความร้อนหรือแรงกระแทกที่แรงพอ
  • ในส่วนของการเผาไหม้ เพชรเป็นสารอินทรีย์ และเมื่อเจออุณหภูมิสูงในสภาวะเฉพาะจะแปลงสภาพเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้

เรื่องตลกในวงการจิวเวลรี่

มีเรื่องเล่าตลกเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆ ของเพชรว่าหากเจอเพชรที่มั่นใจว่าแท้ ให้ลองเผาดู ซึ่งนี้เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะเพชรแท้ก็สามารถเสียหายได้จากการเผาไหม้

ทิปส์ดูแลเครื่องประดับให้รอดจากความร้อน

  • หลีกเลี่ยงการวางเครื่องประดับในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง
  • เลี่ยงการใช้แอมโมเนียหรือสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงในการทำความสะอาด
  • หากมีความจำเป็นในการเก็บรักษาให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันเฉพาะ เช่น กล่องเก็บที่มีการควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ

สรุป

แม้ว่าเพชรจะเป็นแร่ที่มีความแข็งแรงและทนทานมากที่สุด แต่มันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพได้เมื่อเจออุณหภูมิสูง ความเข้าใจเกี่ยวกับการเผาไหม้ของเพชรช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลเครื่องประดับได้อย่างถูกต้องและยืดอายุการใช้งานได้อีกยาวนาน

Posted on Leave a comment

ทำไมใส่เครื่องประดับแล้วผิวเขียว? ไขความเข้าใจผิด

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมใส่แหวนแล้วนิ้วเขียว จริง ๆ แล้วการที่ใส่เครื่องประดับแล้วเกิดคราบสีเขียวบนผิวไม่จำเป็นต้องหมายความว่าเครื่องประดับนั้นเป็นของปลอมเสมอไป ยังมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลให้เกิดสีเขียวเช่นนี้ เรามาไขความเข้าใจผิดพร้อมวิธีป้องกันแบบง่าย ๆ กันเถอะ

ปัจจัยที่ทำให้ผิวเป็นสีเขียว

  • ปฏิกิริยาระหว่างผิวกับโลหะ: เครื่องประดับที่ทำจากทองเหลือง เงินหรืออัลลอย เมื่อสัมผัสกับความชื้นในอากาศหรือเหงื่อจากผิวเรา อาจเกิดการออกซิเดชันส่งผลให้ผิวเป็นสีเขียวได้
  • ความเป็นกรดของเหงื่อ: ผู้ที่มีเหงื่อเป็นกรดมากกว่าปกติอาจมีโอกาสที่จะพบคราบสีเขียวได้มากกว่า
  • การเคลือบผิวของเครื่องประดับเสื่อมสภาพ: เมื่อระยะเวลาผ่านไป การเคลือบผิวของแหวนหรือสร้อยที่ใช้เพื่อป้องกันการเกิดคราบอาจสึกหรอ ทำให้สีเขียวปรากฏ

วิธีป้องกันไม่ให้ผิวเขียว

  • เลือกเครื่องประดับจากวัสดุคุณภาพ: เลือกใช้ทองคำหรือเครื่องเงินบริสุทธิ์เพื่อลดโอกาสในการเกิดปฏิกิริยาเคมีบนผิว
  • เคลือบผิวเครื่องประดับ: ใช้โลชั่นทามือหรือใช้เล็กเกอร์เคลือบผิวเครื่องประดับเป็นการป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเคมี
  • ถอดเครื่องประดับเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง: ถอดแหวนหรือสร้อยเมื่อทำงานบ้านหรือกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก เพื่อลดการเสี่ยงต่อการเกิดคราบ

การดูแลรักษาเครื่องประดับ

  • ทำความสะอาดเป็นประจำ: การทำความสะอาดเครื่องประดับบ่อย ๆ สามารถช่วยลดการเกิดคราบได้
  • เก็บในที่แห้ง: เมื่อไม่ใช้งาน เก็บเครื่องประดับในที่แห้งและห่อหุ้มด้วยผ้าอ่อน ๆ เพื่อลดความชื้น

เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น

  • ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ: เลือกปรึกษาและเลือกซื้อเครื่องประดับจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
  • ทำความเข้าใจวัตถุดิบที่ใช้: ศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

การใส่เครื่องประดับแล้วเกิดคราบผิวเขียวไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลมากนัก หากเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันอย่างถูกต้อง เพียงแต่ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้ก็จะสามารถสวมใส่เครื่องประดับที่เรารักได้อย่างมั่นใจและไม่ต้องกังวลเรื่องคราบเขียวอีกต่อไป

Posted on Leave a comment

เรื่องที่เข้าใจผิดมากที่สุดในวงการจิวเวลลรี่

1. เพชรไม่สามารถแตกหรือชำรุด

การเข้าใจว่าเพชรนั้นเป็นของแข็งจนไม่สามารถแตกหรือชำรุดได้เป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด แม้เพชรจะเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีความแข็งที่สุดในโลก แต่ก็สามารถแตกหรือชำรุดได้เมื่อมีแรงกระแทกอย่างรุนแรงหรือเกินจุดแข็งแรงของมัน

2. ทองคำบริสุทธิ์ไม่มีวันหมอง

ทองคำ 24 กะรัตมักจะคิดว่าไม่มีวันหมองหรือเปลี่ยนสี แต่นี่ไม่เป็นความจริงเสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลรักษาและองค์ประกอบที่เข้ามาสัมผัส ทองคำอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยได้เมื่อสัมผัสกับบางสารเคมี

3. น้ำหนักเพชรแปลว่าคุณภาพที่ดี

หลายคนคิดว่าการที่เพชรมีน้ำหนักมากแปลว่ามีคุณภาพดีกว่า แต่น้ำหนักเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่กำหนดราคา คุณภาพของเพชรยังขึ้นอยู่กับสี ความบริสุทธิ์ และการเจียระไนอีกด้วย

4. จิวเวลลรี่ทุกชิ้นที่แพงคือของแท้

ราคาที่สูงไม่จำเป็นต้องหมายถึงของแท้เสมอไป การเลือกซื้อจิวเวลลรี่ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าและดูใบรับรองเพื่อยืนยันความแท้ของสินค้า

5. การทำความสะอาดจิวเวลลรี่ไม่จำเป็น

การละเลยการทำความสะอาดจิวเวลลรี่สามารถทำให้เครื่องประดับหมองและเสื่อมคุณภาพได้ เครื่องประดับทุกชิ้นควรได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างถูกวิธีเพื่อคงความสวยงามและยืดอายุการใช้งาน

6. ทุกคนสามารถแยกเพชรแท้ออกจากเพชรเทียมได้

การแยกเพชรแท้จากเพชรเทียมนั้นซับซ้อน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญบางครั้งยังต้องใช้เครื่องมือช่วยในการตรวจสอบ เพราะเพชรเทียมคุณภาพสูงอาจดูคล้ายคลึงกับเพชรแท้ได้อย่างน่าทึ่ง

7. ทุกชนิดของเพชรให้ค่าและรูปลักษณ์เท่ากัน

ความเข้าใจผิดที่ว่าเพชรแต่ละชนิดให้ค่าและรูปลักษณ์เท่ากันนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิด เพราะเพชรแต่ละประเภทมีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความแตกต่างในด้านราคาตามคุณภาพและลักษณะเฉพาะ

สรุป

เรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับวงการจิวเวลลรี่มักเกิดจากการขาดความรู้ ความเชื่อเดิมๆ หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกใช้หรือเลือกซื้อเครื่องประดับอย่างคุ้มค่าและปลอดภัย